บริการสินไหมรถยนต์

คำแนะนำเมื่อเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์

ข้อควรปฏิบัติเมื่อรถของท่านชนกับรถคู่กรณี ขณะกำลังรอเจ้าหน้าที่ประกันเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ
  1. หากท่านแน่ใจว่าท่านเป็นฝ่ายได้เปรียบเส้นทางแล้ว อย่ารีบเคลื่อนย้ายรถออกจากที่เกิดเหตุ จนกว่าจะแน่ใจว่าอีกฝ่ายหนึ่งยอมรับผิด หรือพนักงานจราจรมาทำแผนที่เกิดเหตุแล้ว หรือกรณีที่ไม่แน่ใจว่าฝ่ายใดได้เปรียบเส้นทาง การเคลื่อนย้ายรถหรือแยกย้ายรถออกจากกัน ท่านอาจถูกปรักปรำจนตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบได้
  2. หากไม่แน่ใจในรูปคดีหรือการซักถามของอีกฝ่าย ไม่ควรออกความเห็นใดๆ ที่ท่านไม่แน่ใจว่าจะเป็นผลดีต่อท่านหรือรูปคดีของท่าน จนกว่าเจ้าหน้าที่ประกันภัยจะให้คำแนะนำ
  3. จดจำรายละเอียดต่างๆ หรือถ่ายภาพ ที่จำเป็นของคู่กรณีไว้ เช่น หมายเลขทะเบียนรถ ยี่ห้อ สี เป็นต้น เพื่อป้องกันการหลบหนี ไม่ควรรับข้อเสนอหรือประนีประนอมยอมความกับฝ่ายคู่กรณี หากไม่แน่ใจว่าจะคุ้มกับความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับตัวท่าน
  4. หากมีคนเจ็บ ให้นำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลที่ใกล้เคียงโดยเร็ว
  5. โปรดระลึกเสมอว่าเจ้าหน้าที่ของบริษัทสามารถช่วยเหลือท่านได้ หากท่านได้ปฏิบัติถูกต้องตามวิธีการที่กล่าวข้างต้น
  6. กรณีมีข้อขัดข้อง หรือต้องการคำแนะเพิ่มเติม โปรดโทรติดต่อบริษัทฯ 1736 กด 1

ขั้นตอนและเอกสารการเรียกร้องค่าสินไหม

1. กรณีการจัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรืออู่ คู่สัญญาของบริษัทประกันภัย

ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

1.1 กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาเอกสารหลักฐานที่ทางราชการออกให้ของผู้ส่งมอบรถยนต์เข้าซ่อม

   1.2 กรณีรถยนต์คู่กรณี ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาเอกสารหลักฐานที่ทางราชการออกให้ของผู้ส่งมอบรถยนต์เข้าซ่อม

(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาใบอนุญาตขับขี่ หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีเป็นนิติบุคคล) ของเจ้าของ หรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี

(4) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(5) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

2. กรณีการจัดซ่อมรถยนต์ในศูนย์บริการ (ห้าง) หรืออู่ ที่ไม่ใช่คู่สัญญาของบริษัทประกันภัย

ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้  

   2.1 การประเมินความเสียหายก่อนการจัดซ่อม ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

2.1.1 กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(3) ใบประเมินราคาค่าซ่อม

(4) ภาพถ่ายความเสียหายของรถยนต์ตามใบประเมินราคาค่าซ่อมที่เกิดจากอุบัติเหตุ

2.1.2 กรณีรถยนต์คู่กรณี ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(3) ใบประเมินราคาค่าซ่อม

(4) ภาพถ่ายความเสียหายของรถยนต์ตามใบประเมินราคาค่าซ่อมที่เกิดจากอุบัติเหตุ

(5) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนหรือสำเนาหนังสือเดินทาง หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล) ของเจ้าของหรือผู้มีสิทธิครอบครองรถยนต์คู่กรณี

(6) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

2.2 การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน กรณีรถซ่อมแล้วเสร็จ ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

   2.2.1 กรณีรถยนต์ผู้เอาประกันภัย ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) ใบเสร็จรับเงิน และหรือใบกำกับภาษี

(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(4) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(5) ภาพถ่ายรถยนต์ และชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์รถยนต์ระหว่างซ่อม และภายหลังจัดซ่อมเสร็จ

(6) หลักฐานการตรวจสภาพรถยนต์ที่จัดซ่อมแล้วเสร็จ

   2.2.2 กรณีรถยนต์คู่กรณี ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) ใบเสร็จรับเงิน และหรือใบกำกับภาษี

(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทางกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(4) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

 (5) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

3.กรณีรถยนต์เสียหายสิ้นเชิง (Total Loss)

ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

3.1 กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(3) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(4) หนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

(5) คู่มือจดทะเบียนรถ

(6) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี

(7) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)

3.2 กรณีสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(3) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(4) หนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

(5) คู่มือจดทะเบียนรถ

(6) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี

(7) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)

(8) เอกสารการเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์

(9) หนังสือสละสิทธิ์ในการรับค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์

4. กรณีรถยนต์สูญหาย

ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

4.1 กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(3) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(4) หนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

(5) คู่มือจดทะเบียนรถ

(6) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล)

(7) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี

(8) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)

(9) เอกสารการยกเลิกการใช้รถ

   4.2 กรณีสถาบันการเงินหรือบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้เอาประกันภัยเป็นผู้รับประโยชน์ ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาหนังสือเดินทางในกรณีเป็นผู้เอาประกันภัย หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(3) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(4) หนังสือแสดงความประสงค์ขอโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์และรับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

(5) คู่มือจดทะเบียนรถ

(6) สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (กรณีผู้เอาประกันภัยเป็นนิติบุคคล)

(7) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี

(8) สำเนาคำสั่งศาลที่แต่งตั้งการเป็นผู้จัดการมรดก (กรณีผู้เอาประกันภัยเสียชีวิต)

(9) เอกสารการยกเลิกการใช้รถ

(10) เอกสารการเช่าหรือเช่าซื้อรถยนต์

(11) หนังสือสละสิทธิ์ในการรับค่าสินไหมทดแทนของผู้เอาประกันภัยรถยนต์

5.กรณีบาดเจ็บ ทุพพลภาพ หรือสูญเสียอวัยวะ

ใช้เอกสารประกอบการพิจารณาดังนี้

(1) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบอนุญาตขับขี่ หรือหนังสือเดินทาง หรือหลักฐานอื่นที่รับรองตัวตนของผู้ประสบภัย

(3) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)

(4) ใบรับรองแพทย์ และ/หรือประวัติการรักษาของแพทย์

(5) ต้นฉบับใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล หรือสำเนาใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาล  ในกรณีที่มีหลักฐานแสดงว่ายังไม่ได้รับชดใช้เต็มจำนวนตามใบเสร็จรับเงินค่ารักษาพยาบาลดังกล่าว

6. กรณีผู้เอาประกันภัยหรือบุคคลภายนอกเสียชีวิต

ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) สำเนาใบมรณบัตร

(2) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้เสียชีวิต หรือหนังสือเดินทาง (กรณีผู้เสียชีวิตเป็นบุคคลต่างด้าว)

(3) เอกสารแสดงการเป็นทายาททุกคนของผู้เสียชีวิต ได้แก่ สำเนาทะเบียนสมรส สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรือสำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น

(4) เอกสารของทายาททุกคนของผู้เสียชีวิตที่รับค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน เป็นต้น

(5) คำสั่งศาลให้บุคคลทำนิติกรรมแทนผู้เยาว์ (กรณีที่ทายาทผู้เสียชีวิตเป็นผู้เยาว์)

(6) หนังสือรับรองยืนยันการเป็นทายาทของสถานฑูตหรือสถานกงสุล พร้อมคำแปลเป็นภาษาไทย (กรณีเป็นทายาทของบุคคลต่างด้าว)

(7) หนังสือมอบอำนาจของทายาท และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มอบอำนาจ และผู้รับมอบอำนาจ (กรณีทายาทมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน)

(8) สำเนาบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดี

7. ค่าประโยชน์จากการใช้รถ หรือค่าเสื่อมราคารถ

ใช้เอกสารประกอบการพิจารณาดังนี้

(1) ต้นฉบับหรือสำเนาใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของรถ

(4) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของรถมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

(5) หลักฐานที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือค่าเสื่อมราคารถ เช่น สำเนาใบนำรถเข้าจัดซ่อม/ใบรับรถ รายการอะไหล่ที่ใช้ในการจัดซ่อม สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าซ่อม (ถ้ามี)

หากมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่ โทร. 1736 ต่อ 2378, 4117, 2366, 2368, 2326, 4020 , 2048 , 2825

8. ความเสียหายต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก

(1) ต้นฉบับหรือสำเนาใบรับรองความเสียหาย (ใบเคลม)

(2) เอกสารหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของทรัพย์สิน

(3) สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของเจ้าของทรัพย์สิน

(4) หนังสือมอบอำนาจ และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนผู้มอบอำนาจและผู้รับมอบอำนาจ (กรณีเจ้าของทรัพย์สินมอบอำนาจให้บุคคลอื่นดำเนินการแทน) หรือสำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล และสำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจ (กรณีเป็นนิติบุคคล)

 (5) หลักฐานที่แสดงรายละเอียดความเสียหาย มูลค่า ระยะเวลาการจัดซ่อม เป็นต้น

9. กรณีความคุ้มครองเพิ่มเติมกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ TIP LADY

ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

 

9.1 กรณีค่าใช้จ่ายในการศัลยกรรม ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) ใบเสร็จรับเงินฉบับจริงที่แสดงรายการค่าใช้จ่ายหรือใบสรุปปิดหน้างบกับใบเสร็จรับเงินจากโรงพยาบาล

(2) ใบรับรองแพทย์ที่ระบุอาการสำคัญ ผลการวินิจฉัย และการรักษาพยาบาล

(3) สำเนาบันทึกประจำวัน (ถ้ามี)

(4) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

(5) สำเนาบัตรประชาชนของผู้บาดเจ็บ

(6) สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้บาดเจ็บ (สำหรับการโอนเงิน)

(7) เอกสารอื่นๆ ที่บริษัทร้องขอเป็นกรณีไป

(8) แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมประกันภัย TIP Lady

   9.2 กรณีนำรถเข้าอู่ซ่อม ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) สำเนาใบเคลมรถยนต์ระบุฝ่ายถูก

(2) สำเนาใบรับรถยนต์ที่ระบุวันที่เข้าซ่อมแซมและใบรับรถออกจากอู่หรือศูนย์ซ่อมรถยนต์

(3) สำเนารายงานบันทึกประจำวัน หรือสรุปสำนวนคดี (ถ้ามี)

(4) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

(5) สำเนาบัตรประชาชนของผู้ถือกรมธรรม์

(6) สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (สำหรับการโอนเงิน)

   9.3 กรณีความสูญเสียหรือความเสียหายของทรัพย์สินส่วนบุคคลภายในรถยนต์จากการ

    ถูกโจรกรรม และจากอุบัติเหตุการชนกับยานพาหนะทางบก ให้ใช้เอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้

(1) รายงานบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีที่ระบุสาเหตุของทรัพย์สินที่สูญหาย

(2) รายการทรัพย์สินที่สูญหายหรือเสียหายโดยละเอียด/รูปถ่ายความเสียหาย

(3) สำเนาใบเคลมรถยนต์ (ถ้ามี)

(4) สำเนาคู่มือจดทะเบียนรถ

(5) สำเนาบัตรประชาชนของผู้ถือกรมธรรม์

(6) สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝากธนาคาร (สำหรับการโอนเงิน)

(7) เอกสารอื่นๆ ที่บริษัทร้องขอเป็นกรณีไป

(8) แบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมประกันภัย TIP Lady

10. สำเนาสมุดบัญชีธนาคาร

ในกรณีตกลงชดใช้เงิน หรือค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยโดยใช้วิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้แก่ผู้เอาประกันภัย/ ผู้รับประโยชน์/ ผู้มีสิทธิเรียกร้องตามกรมธรรม์ประกันภัย แล้วแต่กรณี

11. เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆที่บริษัทร้องขอ

เอกสารเพิ่มเติมอื่นๆที่บริษัทร้องขอเป็นกรณีไปเพื่อใช้ประกอบการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน

12. การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนทางอิเล็กทรอนิกส์

ให้ใช้เอกสารตามที่แจ้งไว้ตามข้อ 1.-11.ซึ่งบริษัทปฎิบัติตามวิธีการแบบปลอดภัยในระดับที่กำหนดไว้ในกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยจัดส่งทางอีเมลของบริษัท [email protected]

หรือ [email protected] หากมีข้อสงสัยติดต่อได้ที่ โทร. 1736 ต่อ 2378, 4117, 2366, 2368, 2326, 4020 , 2048 , 2825

13. หากผู้เอาประกันภัยประสงค์แจ้งเคลมทางวิธีการอิเลกทรอนิกส์

หากผู้เอาประกันภัยประสงค์แจ้งเคลมทางวิธีการอิเลกทรอนิกส์ ทางบริษัทมีช่องทางแอปพิเคชั่น TIP Flash claim

ระยะเวลาในการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน

1. ระยะเวลาในการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนภายใน 15 วันนับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน

2. ระยะเวลาในการพิจารณากรณีค่าเสียหายเบื้องต้นหรือค่าสินไหมทดแทนตามสิทธิ พ.ร.บ. ภายใน 7 วันนับแต่วันที่ได้รับเอกสารครบถ้วน

ระยะเวลาในการชดใช้ค่าสินไหมทดแทน

1. บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายในระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่การตกลงเป็นที่ยุติและบริษัทได้รับเอกสารครบถ้วน

2. กรณีค่าเสียหายเบื้องต้นหรือค่าสินไหมทดแทนเบื้องต้นตามสิทธิ พ.ร.บ. บริษัทจะจ่ายค่าสินไหมทดแทนภายในระยะเวลา 7 วัน นับแต่วันที่การตกลงเป็นที่ยุติและบริษัทได้รับเอกสารครบถ้วน

ขั้นตอนการทบทวนผลการพิจารณาชดใช้เงินหรือค่าสินไหมทดแทน

ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัย/ผู้รับผลประโยชน์/คู่กรณี ไม่เห็นด้วยกับผลการพิจารณาของบริษัทฯ และประสงค์ให้บริษัทฯทบทวนผลการพิจารณาค่าสินไหมทดแทน ท่านสามารถยื่นเรื่องดังกล่าวผ่านหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนของบริษัทฯ โดยระบุความประสงค์หรือเหตุผลที่ต้องการให้บริษัทฯทบทวนพิจารณา        ค่าสินไหมทดแทน พร้อมทั้งแนบเอกสารการเรียกค่าสินไหมทดแทนที่บริษัทได้แจ้งไว้ในเอกสารการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนและจัดส่งเอกสารเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องเพื่อประกอบการทบทวนการพิจารณาค่าสินไหมทดแทนต่อไป

บริษัทฯ จะดำเนินการแจ้งผลการพิจารณาภายใน 30 วัน นับแต่วันที่บริษัทฯ ได้รับเรื่องขอให้ทบทวนจากท่าน

ช่องทางการติดต่อหน่วยงานรับเรื่องร้องเรียนของบริษัทฯ

1. คุณพงษ์ศักดิ์ สาโยธา เบอร์โทรศัพท์ 02-2392897 อีเมล [email protected]

2. คุณอรนุตร ชมพรมมา เบอร์โทรศัพท์ 02-2392729 อีเมล [email protected]

3. หน่วยงานรับเรื่องร้องเรียน เบอร์โทรศัพท์ 02-2392200             www.dhipaya.co.th

มาตรฐานการประกันภัยระดับสากล

ISO 9001 และ ISO 27001


มั่นคงด้วยผู้ถือหุ้นใหญ่จากบริษัทชั้นนำ

  • ptt
  • krungthai
  • ธนาคารออมสิน
certified company

สวัสดีครับ

หนุม่อนยินดีช่วยเหลือครับ