มีส่วนลดสำหรับการประกันภัยรถยนต์
1.มีส่วนลดให้ 5% เมื่อลูกค้ามีกล้องหน้ารถยนต์
2.การให้ส่วนลดกลุ่มสำหรับการเอาประกันภัยรถยนต์พร้อมกันจำนวน 3 คันขึ้นไป ภายใต้นามสกุลเดียวกันหรือเป็นบริษัทเดียวกัน สำหรับลูกค้าซึ่งประกอบธุรกิจ โดยลด 10% จากอัตราเบี้ยประกันภัยปกติ
3. กรณีที่ลูกค้า เป็นลูกค้าต่ออายุจะมีส่วนลดประวัติดีเพิ่มเติมให้ โดยที่ส่วนลดประวัติดีนั้น ลูกค้าจะได้เพิ่มปีละ 10% และสูงสุดที่ 50% ของเบี้ยประกัน กรณีที่ลุกค้า ไม่มีประวัติการณ์เคลมหรือ มีประวัติการณ์เคลมในปีนั้นๆแต่ลูกค้าเป็นฝ่ายถูก
กรณีในปีที่ทำประกันไม่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น หรือมีแต่เป็นฝ่ายถูก (สามารถแจ้งคู่กรณีได้) จะได้รับส่วนลดประวัติดี 20%, 30%, 40% และสูงสุด 50% ทั้งนี้ หากได้รับส่วนลดประวัติดีที่ 50% แล้วมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนในปีเดียวกัน บริษัทจะให้ส่วนลดเบี้ยประกันภัยในปีที่ต่ออายุ ดังนี้
1. ลำดับขั้นจากเดิม กรณีมีการเรียกร้องค่าสินไหมที่ผู้เอาประกันภัยไม่ได้เป็นฝ่ายประมาท และแจ้งคู่กรณีได้
2. ลดลงหนึ่งลำดับขั้นจากเดิม หากการเรียกร้องนั้นเกิดจากความประมาทของผู้เอาประกัน หรือแจ้งคู่กรณีไม่ได้
3. ลดลงสองลำดับขั้นจากเดิมแต่ไม่เกินอัตราปกติ หากมีการเรียกร้องโดยผู้เอาประกันภัยเป็นฝ่ายประมาทหรือแจ้งคู่กรณีไม่ได้ตั้งแต่ 2 ครั้งขึ้นไป และมีจำนวนเงินเกิน 200% ของเบี้ยประกันภัย"
การระบุชื่อผู้ขับขี่ เบี้ยประกันจะถูกกว่าไม่ระบุชื่อ หากมีการระบุชื่อจะมีส่วนลดโดยกำหนดตามอายุของผู้ขับขี่ ดังนี้
- อายุ 18 - 24 ปี ลด 5%
- อายุ 25 - 35 ปี ลด 10%
- อายุ 36 - 50 ปี ลด 15%
- อายุ 50 ปีขึ้นไป ลด 20%
ทั้งนี้ สามารถระบุชื่อผู้ขับขี่ได้ 2 คน โดยจะคิดค่าเบี้ยประกันจากผู้ขับขี่ที่มีอายุความเสี่ยงสูง"
รถเก๋ง, รถนั่ง, รถจักรยานยนต์ ที่จดทะเบียนในนามของบุคคล ยกเว้นรถยนต์บรรทุก และรถที่จดทะเบียนในนามของนิติบุคคล
จะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายในกรณีซ่อมรถของผู้เอาประกัน 6,000.- บาท แรก และถ้ามีการชดใช้ค่าเสียหายทรัพย์สินของคู่กรณี จะต้องรับผิดชอบ 2,000.-บาทแรก รวมเป็น 8,000.-บาท
กรณีเกิดอุบัติเหตุรถยนต์เกิดความเสียหายและไม่ทราบหรือไม่สามารถระบุคู่กรณีได้ ผู้เอาประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายส่วนแรกเองในวงเงิน 2,000 บาทแรก หรือต้องรับภาระต่อความเสียหายส่วนแรกตามเงื่อนไขภายใต้กรมธรรม์ประกันภัย สำหรับในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยเลือกซื้อความคุ้มครองในลักษณะกำหนดค่าเสียหายส่วนแรกที่ตกลงกันเพื่อผลในการประหยัดค่าเบี้ยประกันภัย
- แจ้งยกเลิกกรมธรรม์เพื่อขอรับค่าเบี้ยประกันภัยคืนบางส่วน
- โอนกรมธรรม์ให้แก่ผู้ซื้อรถยนต์ โดยที่ผู้เอาประกันภัยเดิม จะต้องมีเอกสารยินยอมให้เปลี่ยนชื่อผู้เอาประกันภัย
สามารถทำได้ โดยใช้เลขที่กรมธรรม์และวันสิ้นสุดกรมธรรม์ตามเดิม ซึ่งสามารถที่จะโอนส่วนลดจากรถคันเดิมมาคันใหม่ได้
ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางให้ความคุ้มครอง ตลอด 24 ชั่วโมง และครอบคลุมทั่วโลก โดยคุ้มครองในกรณีต่างๆ ต่อไปนี้
1. การสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ระหว่างเดินทาง
2. การสูญเสียอวัยวะ และสายตา
3. การรักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วย ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่สามารถคาดการณ์ได้
ผู้ทำประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 1 - 85 ปีบริบูรณ์
หมายเหตุ : ขึ้นอยู่กับแผนประกันที่ทำอาจมีการปรับเปลี่ยนอายุขั้นต่ำหรือสูงสุดที่สามารถทำได้
1-180 วัน ตามแต่ระยะเวลาที่ลูกค้าจะเลือกเดินทาง
ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางจะคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างเดียว และไม่รวมค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วย ยกเว้นเป็นการเจ็บป่วยที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันและไม่สามารถคาดการณ์ได้
การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ การถูกฆ่า หรือถูกทำร้ายร่างกาย
ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางมีวงเงินเอาประกันภัยตั้งแต่ 50,000 ถึง 3,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลที่คุ้มครองมักกำหนดไว้ไม่เกิน 10% ของวงเงินเอาประกันภัย ผู้เอาประกันภัยจะได้รับชดเชยค่ารักษาพยาบาลตามที่ได้จ่ายไปจริง และเหมาจ่ายช่วงระหว่างเดินทางไม่เกินวงเงินเอาประกันภัยที่ทำไว้
หากเปลี่ยนลักษณะการใช้อาคาร ต้องแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรให้บริษัทฯ ทราบก่อน เพื่อจะได้ดำเนินการออกสลักหลังให้โดยแจ้งเลขที่กรมธรรม์ฉบับปัจจุบัน และจะได้รับค่าเบี้ยประกันภัยคืนบางส่วน เนื่องจากอัตราเบี้ยประกันภัยถูกลง
ถ้าคุณลูกค้าต้องการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในกรมธรรม์ กรุณานำเลขกรมธรรม์ พร้อมลายละเอียดที่ถูกต้องติดต่อตามช่องทางดังต่อไปนี้
1. กรณีเป็นลูกค้าผ่านช่องทาง ธนาคารกรุณาติดต่อเจ้าหน้าที่ท่านได้ซื้อประกันภัย
2. กรณีเป็นลูกค้าผ่านช่องทางตัวแทน กรุณาติดต่อตัวแทนที่ลุกค้าได้ทำประกัน
3. กรณีลูกค้าติดต่อบริษัทโดยตรง ลูกค้าสามารถส่งข้อมูลผ่านหน้าเว็บไซต์ หรือคลิ๊กที่ TIP Chat ในมุมล่างขวาของเว็บไซต์
การทำประกันภัยประเภทนี้ไม่ต้องตรวจสุขภาพ และผู้เอาประกันภัยต้องมีอายุตั้งแต่ 15 - 60 ปีบริบูรณ์ ถ้าเป็นกรมธรรม์ประกันภัยสำหรับนักเรียน จะแบ่งเป็นระดับชั้นอนุบาล อุดมศึกษา และสายอาชีพ
ไม่จำเป็น เพียงแต่ผู้เอาประกันภัยต้องได้รับการรักษา โดยแพทย์ที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ตามกฎหมาย หรือได้รับการพยาบาลโดยพยาบาลที่มีใบอนุญาต เช่น คลินิก โรงพยาบาลของสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลเอกชน ก็สามารถเบิกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้
ผู้เอาประกันภัยจะได้รับชดเชยค่ารักษาพยาบาลตามที่ได้จ่ายไปจริง ซึ่งเกิดขึ้นภายใน 52 สัปดาห์ นับแต่วันเกิดอุบัติเหตุ และอยู่ในช่วงระยะเวลาประกันภัย ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุกี่ครั้งก็ตาม แต่ละครั้งบริษัทจะชดใช้ค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ทำไว้
ไม่สามารถเบิกได้ เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยจะได้รับการชดใช้จากสวัสดิการของรัฐ หรือจากการประกันภัยอื่นมาแล้ว บริษัทจะรับผิดเรื่องจำนวนเงินค่ารักษาพยาบาลที่ได้จ่ายไปตามจริง
ค่ารักษาพยาบาลในที่นี้ไม่รวมถึงค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากการเจ็บป่วย จะชดเชยเฉพาะค่ารักษาพยาบาลที่เกิดจากอุบัติเหตุเท่านั้น
เอกสารประกอบที่จะเบิกค่ารักษาพยาบาล ได้แก่
1. แบบเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (แบบฟอร์มของบริษัท)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / บัตรนักศึกษา
3. ใบรับรองแพทย์ (ต้นฉบับ)
4. ใบเสร็จรับเงิน (ต้นฉบับ)
วงเงินเอาประกันภัยปกติจะกำหนดไว้ไม่เกิน 10 เท่าของรายได้ (หลังหักค่าใช้จ่าย) ต่อปี หรือ 100 เท่าต่อเดือน ส่วนวงเงินค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากอุบัติเหตุมักกำหนดไว้ไม่เกิน 10% ของวงเงินเอาประกันภัยการเสียชีวิต
1. แบบเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (แบบฟอร์มของบริษัท)
2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / บัตรนักศึกษา
3. ใบรับรองแพทย์ (ต้นฉบับ)
4. ใบเสร็จรับเงิน (ต้นฉบับ)
1. แบบเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน (แบบฟอร์มของบริษัท)
2. ใบมรณบัตร
3. ใบชันสูตรพลิกศพ (สาเหตุการตาย)
4. สำเนาทะเบียนบ้าน (ผู้เสียชีวิตและผู้รับประโยชน์)
5. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน (ผู้เสียชีวิตและผู้รับประโยชน์)
6. สำเนาบันทึกประจำวัน การเสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุ
7. ผลจากสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ (กรณีถูกฆาตกรรม)
ไม่จ่าย
1. ทางบริษัทขอทราบถึงข้อมูลของผู้เอาประกันภัย พร้อมเบอร์กรมธรรม์ (ถ้ามี)
2. ในกรณีที่กรมธรรม์หาย ทางบริษัทสามารถถ่ายเอกสารสำเนากรมธรรม์พร้อมประทับตราบริษัท รับรองสำเนาถูกต้อง เพื่อให้แก่ลูกค้าได้
3. ในกรณีมีการเรียกร้องค่าสินไหม ข้อมูลของลูกค้าทั้งหมดจะอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสามารถทำการตรวจสอบได้ว่ามีประกันภัยกับบริษัทไว้หรือไม่
สามารถทำได้
1. ทางโทรศัพท์หมายเลข 0-2248-0059 ต่อ 438, 439
2.ต่อผ่านเว็บไซต์ https://www.tipinsure.com/Renew
3.ต่อผ่าน แอปพลิเคชั่น TIP Insure
4. ส่งโทรสารมาที่หมายเลข 0-2643-2997 และ 0-2643-9499
5. ส่งหนังสือแจ้งกลับมาที่บริษัท
บริษัทจะแจ้งหนังสือการต่ออายุล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน เพื่อให้ลูกค้าทราบว่ากรมธรรม์จะหมดอายุเมื่อไร
สามารถยกเลิกได้ โดยผู้เอาประกันภัยต้องแจ้งการยกเลิกกรมธรรม์ มาเป็นลายลักษณ์อักษร และบริษัทจะคืนเบี้ยประกันส่วนที่เหลือตามอัตราส่วน
มี โทร 1736 กด 1
1. โทร 1736 กด 1 กรณีแจ้งเคลมใน กทม. จะได้รับบริการภายใน 25 นาที
2.ผ่านระบบออนไลน์ ที่ศูนย์ซ่อมมาตรฐานในเครือ
3.เคาท์เตอร์เคลมที่ สนญ. และทุกสาขาทั่วประเทศ ในวันจันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่เวลา 8:30 - 16:30
4.Application Tip flash claim
5.Line Official Account ของบริษัทฯ @Dhipayainsurance
6.Tip tele claim Team
สามารถตรวจสอบได้ที่ >> Click <<
กำหนด 2 ปี ตามกฎหมาย
กรณีประกันเป็นฝ่ายถูกควรจัดซ่อมภายใน 1 ปีนับแต่เกิดเหตุ
แต่ในทางปฏิบัติไม่ควรเก็บไว้นาน เพราะอาจมีปัญหา เช่น ส่วนที่เสียหายขึ้นสนิม รถอาจเกิดเหตุเฉี่ยวชนซ้ำ ฯลฯ โดยแนะนำให้นำไปให้อู่ซ่อมก่อนหมดอายุอย่างน้อย 2 เดือนเพื่อให้อู่มีเวลาตั้งเบิกและป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซ้อน
ได้โดยต้องเตรียมเอกสาร หนังสือมอบอำนาจ เพิ่มเติมโดยสามารถศึกษาเพิ่มได้ที่ >> Click <<
แจ้งมาทางบริษัทฯ และนำรถกลับไปเข้าที่อู่ให้แก้ไข เนื่องจากอู่มีรับประกันงานซ่อม หากอู่ยืนยันว่าเรียบร้อย แต่ลูกค้าไม่ยอมรับ สามารถแจ้งบริษัทให้ส่ง เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบพร้อมกันทุกฝ่ายที่อู่ได้
เมื่อรถได้รับความเสียหายก็ต้องมีการชดเชยให้คืนอยู่ในสภาพเดิม
ตามหลักแล้วบริษัทประกันจะชดใช้ให้ตามสภาพของอะไหล่ที่เสียหาย ตามเงื่อนไข กรมธรรม์ โดยมีหลักการชดใช้ 3 แบบ
1.ซ่อม
2.เปลี่ยน
3.ชดใช้
กรมธรรม์ไม่มีระบุว่าต้องเปลี่ยนอะไหล่แท้ใหม่ การให้อะไหล่แท้ใหม่โดยส่วนใหญ่ จะทำเมื่ออายุรถไม่เกิน 3 ปี (ยกเว้นอะไหล่เกี่ยวกับความปลอดภัย ส่วนใหญ่จะให้ของแท้) หรือเป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ
เมื่อเกิดเหตุเฉี่ยวชน หรือ รถยนต์เสียหายในกรณีใดๆก็ตาม ลูกค้าจะเสียค่าส่วนลดประวัติดีทุกประการ ยกเว้นการชนมีคู่กรณีแล้วลูกค้าเป็นฝ่ายถูก และสามารถเรียกร้องคู่กรณีได้
ค่าเสียหายส่วนแรก มี 2 กรณี คือ
1. ผู้ขับขี่รถประกัน ชดใช้ค่าเสียหายเบื้องต้นของ พรบ. และ อุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้าย
2. บุคคลภายนอก ชดใช้ค่าเสียหายของ พรบ. และภาคสมัครใจ เต็มวงเงินประกันภัย
3. บุคคลภายนอก ที่เข้าข้อยกเว้น ได้แก่ สามีภรรยา บิดามารดา บุตรของผู้ขับขี่รถประกัน ชดใช้ค่าเสียหายตาม พรบ. เต็มวงเงินประกัน และ อุบัติเหตุส่วนบุคคลตามเอกสารแนบท้าย
ประกันจะจ่ายสินไหมให้สำหรับการเปลี่ยนอะไหล่ใหม่ ส่วนอะไหล่ที่ชำรุดจะทำการคืนให้บริษัทประกันภัย
กรุณาแจ้งเคลมและบริษัทฯ จะตรวจสอบความเสียหาย เพื่อออกหลักฐานให้ไปดำเนินการจัดซ่อม
บริษัทจะคุ้มครองผู้เสียหาย ในฐานะบุคคลภายนอก โดยชดใช้ค่าเสียหายในส่วนของ พรบ. และ ประกันรถยนต์ภาคสมัครใจ ตามความเสียหายจริง แต่ไม่เกินวงเงินประกันภัย
ผู้ขับขี่หรือผู้ละเมิดจะต้องชำระค่ารักษาให้ผู้บาดเจ็บ เท่ากับเต็มวงเงินความคุ้มครอง พรบ. ก่อน และทางบริษัทจึงจะชำระค่ารักษาตามความคุ้มครองของกรมธรรม์ภาคสมัครใจ ตามสัญญาประกันภัย
1. ท่วมบางส่วน จ่ายตามความเสียจริง ไม่เกิน 70% ของทุนประกันภัย
2. ถ้าท่วมเสียหายทั้งคันหรือค่าซ่อมเกินกว่า 70% ของทุนประกันภัย บริษัทจะพิจารณาจ่ายเต็มทุนประกันภัย
สามารถไปซ่อมห้างได้ โดยบริษัทจะพิจารณาคุมราคาตามราคามาตรฐานการจัดซ่อมของอู่ในเครือ โดยลูกค้าจะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนต่างค่าซ่อมเอง
สามารถเคลมได้ แต่จะต้องมีการลงบันทึกประจำวันว่าเกิดจากการกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์เเละ ยักยอกทรัพย์
1. พรบ.จะคุ้มครองไม่ว่ากรณีใดๆ ถึงแม้ว่าผู้ขับจะไม่มีใบขับขี่ก็ตาม
2. กรณีเป็นฝ่ายผิด ความเสียหายต่อตัวรถประกันจะไม่ได้รับความคุ้มครอง แต่ยังคงรับผิดชอบต่อทรัพย์สินและอนามัยของบุคคลภายนอกเช่นเดิม
3. กรณีเป็นฝ่ายถูกสามารถรับผิดชอบความเสียหายของรถประกันได้
ไม่ได้ เนื่องจากไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุ กรณีเกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุประกันจะทำการชดใช้ให้ โดยที่ผู้เอาประกันสามารถเปลี่ยนสีรถได้ แต่ถ้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการเปลี่ยนสี ผู้เอาประกันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง
ไม่ได้ เพราะเป็นความเสียหายจากการเสื่อมสภาพจากการใช้งาน
ไม่สามารถเบิกได้ เนื่องจากบิลค่ารักษาสามารถทำการเคลมได้เพียงครั้งเดียวไม่สามารถทำซ้ำซ้อนกับประกันอื่นได้
กรมธรรม์นี้จะไม่คุ้มครองการยกเลิกการเดินทางเนื่องจากเหตุผลและความจำเป็นของนายจ้าง
ประกันภัยอุบัติเหตุเดินทางจะคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอย่างเดียว และไม่รวมค่ารักษาพยาบาลอันเนื่องมาจากการเจ็บป่วย หากลูกค้าต้องการให้คุ้มครองค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากการเจ็บป่วยด้วย จะต้องทำประกันภัยอุบัติเหตุและสุขภาพอีกฉบับหนึ่ง
ไม่สามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายการรักษาพยาบาลในต่างประเทศอันเนื่องมาจากโรคที่เป็นมาก่อนการทำประกัน
การพิจารณาชดใช้จะขึ้นอยู่กับการแถลงข้อเท็จจริง และ บริษัทจะชดใช้เงินคืนให้แก่ผู้เอาประกันภัย สำหรับการสูญเสียหรือความเสียหายของการบอกเลิกการเดินทาง ที่เกิดขึ้นหลังจากที่กรมธรรม์ประกันภัยมีผลบังคับแล้ว
สำหรับค่าใช้จ่ายที่ผู้เอาประกันภัยได้จ่ายไปล่วงหน้าบางส่วนหรือทั้งหมดเพื่อเป็นค่ามัดจำหรือจองตั๋วเดินทาง หรือค่าที่พัก ตามที่ระบุในตารางความคุ้มครอง และ เงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย
บริษัทไม่มีโรงพยาบาลในเครือในต่างประเทศ ลูกค้าต้องสำรองเงินออกไปก่อน และมาตั้งเรื่องเบิกจ่ายภายหลัง
การประกันภัยนี้ไม่คุ้มครองการขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ การถูกฆ่า หรือถูกทำร้ายร่างกาย
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเบิกค่ารักษาประกันสุขภาพ และ ประกันอุบัติเหตุ ประกอบด้วย
นำส่งเอกสารทั้งหมดมาที่ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) 1115 ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานาวา กรุงเทพฯ 10120 (ส่วนงานสินไหมประกันสุขภาพ ชั้น 15) (โดยให้ส่งผลลงทะเบียน หรือ EMS หรือขนส่งเอกชนเพื่อที่จะ ติดตามเอกสารได้
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเบิกค่าชดเชยรายได้ขณะเข้ารับรักษาการรักษาในโรงพยาบาล ประกอบด้วย
นำส่งเอกสารได้ 2 ช่องทาง
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเบิกค่าสินไหมกรณีทุพพลภาพ ประกอบด้วย
หมายเหตุ
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเบิกค่าสินไหมกรณีเสียชีวิตจากการเจ็บป่วย ประกอบด้วย
เอกสารที่ต้องใช้สำหรับการเบิกค่าสินไหมกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ประกอบด้วย
นำส่งเอกสารได้ 2 ช่องทางคือ
ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรประกัน ลูกค้าสามารถยื่นบัตรประชาชนที่โรงพยาบาลได้
โดยสามารถเช็คโรงพยาบาลในเครือได้ที่ >> คลิก <<
ผู้เอาประกันสามารถสำรองจ่าย และ ส่งเอกสารเคลมตรงมายังบริษัทฯ (เพื่อแจ้งรายละเอียดเอกสารการเรียกร้องค่าสินไหม ค่ารักษาให้แก่ผู้เอาประกันภัย)
สามารถขอคืนได้ โดยให้ผู้เอาประกันภัยระบุมาในแบบฟอร์มเรียกร้องค่าสินไหมว่า ขอเอกสารต้นฉบับคืนโดยทางบริษัทฯ จะประทับตราจำนวนเงินค่าสินไหมที่ทางบริษัทฯคุ้มครองลงในใบเสร็จต้นฉบับและนำส่งให้แก่ผู้เอาประกันภัย
ผู้เอาประกันต้องดำเนินการแจ้งความหรือลงบันทึกประจำวัน ว่าใบเสร็จต้นฉบับได้สูญหายไปเมื่อใด ที่ใด โดยระบุเลขที่ใบเสร็จ ชื่อผู้เอาประกันภัย ชื่อโรงพยาบาล วันที่เข้ารับการรักษา ยอดค่าใช้จ่าย และนำส่งใบแจ้งความนี้พร้อมสำเนาฝบเสร็จ และเอกสารประกอบพิจารณาค่าสินไหมทดแทนกลับมายังบริษัท
เนื่องจากมด และยุงไม่ใช่สัต์พิษร้ายแรงจึง ไม่ถือว่าเป็นอุบัติเหตุทำให้ไม่สามารถเคลมประกันอุบัติเหตุได้
โดยที่อุบัติเหตุหมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันจากปัจจัยนอกร่างกาย ที่บุคคลผู้เอาประกันภัยมิได้เจตนาหรือมุ่งหวังและทำให้เกิดผลต่อผู้เอาประกัน
คุ้มครองการรักษารากฟัน อันเนื่องมาจากอบุัติเหตุ โดยคุ้มครองภายใน 7 วัน นับจากวันที่เกิดเหตุ (คุ้มครองการอุด การถอน และ เอ็กซเรย์ฟัน) ไม่คุ้มครองการทำฟันปลอม สะพานฟัน หรือทันตกรรมประดิษฐ์
บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิการใช้สิทธิผ่านทางโรงพยาบาล โดยขอให้ผู้เอาประกันภัยสำรองจ่าย ส่งเคลมตามพร้อมสรุปสำนวน คดีมายังบริาัทเพื่อพิจารณา
หากผู้เอาประกันภัยได้รับการชดเชยค่ารักษาพยาบาลเต็มจำนวนแล้ว จากสวัสดิการ/สิทธิประกันสุขภาพของบริษัท ก็จะไม่สามารถเบิกเงินชดเชยได้อีก แต่หากผู้เอาประกันภัยได้รับการชดเชยค่ารักษาพยาบาลแล้วเพียงบางส่วน ก็สามารถเบิกเงินชดเชยค่ารักษาพยาบาลส่วนที่เหลือตามเงื่อนไขกรมธรรม์กับบริษัทฯ ได้
สำหรับการประกันอัคคีภัยที่อยู่อาศัย มีหลักเกณฑ์ ในการพิจารณาชดใช้ค่าเสียหายดังนี้ พิจารณามูลค่าทรัพย์สิน ณ เวลาที่เกิดความเสียหาย จำนวนเงินที่เอาประกันภัย มูลค่าทรัพย์สินที่ได้รับความเสียหาย
- กรณีที่จำนวนเอาประกันภัยไว้ มากกว่าหรือเท่ากับ 70% ของมูลค่าทั้งหมดของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย (100%) ขณะเกิดความเสียหาย บริษัทฯ จะชดใช้ค่าเสียหายให้ผู้เอาประกันเต็มจำนวนความเสียหาย (แต่ไม่เกินจำนวนเงินเอาประกัน) ยกตัวอย่างเช่น บ้านหลังหนึ่งมีมูลค่าทั้งหมด (100%) = 1,000,000 บาท เอาประกันภัยไว้ 700,000 บาท (70%) เพลิงไหม้ ได้รับความเสียหายบางส่วน = 250,000 บาท บริษัทฯ จะชดใช้ค่าเสียหายให้ 250,000 ตามความเสียหายจริง (แต่ไม่เกินทุนประกัน)
- กรณีที่จำนวนเอาประกันภัยไว้ ต่ำกว่า 70% ของมูลค่าทั้งหมดของทรัพย์สินที่เอาประกันภัย (100%) ขณะเกิดความเสียหาย ให้ถือว่าผู้ประกันภัยรับความเสี่ยงภัยไว้เองในส่วนที่แตกต่างกับมูลค่าที่แท้จริง จะต้องใช้หลักการเฉลี่ยค่าเสียหาย ( Law of Average ) มาพิจารณาจ่ายค่าเสียหาย เช่น บ้านหลังหนึ่งมีมูลค่าทั้งหมด (100%) = 1,000,000 บาท เอาประกันภัยไว้ 500,000 บาท (50%) เพลิงไหม้ ได้รับความเสียหายบางส่วน = 250,000.00 บาท บริษัทฯจะชดใช้ค่าเสียหายให้ 125,000 บาท (50% ของมูลค่าความเสียหาย)